IT/ICT Innovation
ความก้าวหน้าด้านไอที
1. ความก้าวหน้าในด้านรูปแบบ
อุปกรณ์ไอทีทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมากเพราะความสามารถในการย่นย่อวงจรคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงแต่ทำงานได้รวดเร็วขึ้นอีกทั้งวงจรคอมพิวเตอร์เข้าไปฝังอยู่ในอุปกรณ์นานาชนิด ทั้งเครื่องมือแพทย์ เครื่องมืออุตสาหกรรม ยานพาหนะ
2. ความก้าวหน้าในด้านการกระจาย
ความก้าวหน้าของระบบโทรคมนาคมทำให้เกิดการแพร่กระจายของอุปกรณ์ไอทีออกไปอย่างกว้างขวางเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ทุกคนสื่อสารติดต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน มีทั้งอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ได้และอุปกรณ์ที่อยู่กับที่แต่เชื่อมโยงกับที่อื่นๆ ได้
3. ความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้
อุปกรณ์ไอทีเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเรียนรู้อย่างกว้างขวางในแบบ Synchronous มีการพัฒนาระบบช่วยการเรียน (CAI และ CBT) มีการนำภาพ ข้อความ เสียงและภาพเคลื่อนไหวมาจัดทำเป็นข้อมูลสำหรับนำเสนอ (Multimedia)
4. ความก้าวหน้าในการใช้ไอทีเป็นกลยุทธ์
หน่วยงานหลายแห่งเริ่มมองเห็นไอทีเป็นกลยุทธ์สำคัญในด้านการแข่งขันคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การให้ข้อมูลข่าวสารแก่พนักงาน การคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการแบบใหม่
วิธีการใช้ไอทีให้ได้ผล
กำหนดวิสันทัศน์และวางแผนการใช้อย่างจริงจังมีการพิจารณาความจำเป็นและความต้องการอย่างรอบคอบ กำหนดงบประมาณ ติดตั้ง พัฒนาระบบตามที่วางแผน รวมทั้งปฏิบัติงานประเมินผลและแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาไอที
ผู้บริหารสนับสนุนไอทีมากน้อยเพียงใด ภาพรวมของการใช้ไอทีก้าวหน้าดีเพียงใด ใครคือผู้ใช้บ้างและผู้ใช้รู้จักไอทีมากน้องเพียงใด บุคลากรไอทีมีความรู้และประสบการณ์มากน้อยเพียงใด แผ่นแม่บทไอทีมีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด
อุปกรณ์ไอทีทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปมากเพราะความสามารถในการย่นย่อวงจรคอมพิวเตอร์ให้เล็กลงแต่ทำงานได้รวดเร็วขึ้นอีกทั้งวงจรคอมพิวเตอร์เข้าไปฝังอยู่ในอุปกรณ์นานาชนิด ทั้งเครื่องมือแพทย์ เครื่องมืออุตสาหกรรม ยานพาหนะ
2. ความก้าวหน้าในด้านการกระจาย
ความก้าวหน้าของระบบโทรคมนาคมทำให้เกิดการแพร่กระจายของอุปกรณ์ไอทีออกไปอย่างกว้างขวางเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ทุกคนสื่อสารติดต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน มีทั้งอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ได้และอุปกรณ์ที่อยู่กับที่แต่เชื่อมโยงกับที่อื่นๆ ได้
3. ความก้าวหน้าด้านการเรียนรู้
อุปกรณ์ไอทีเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเรียนรู้อย่างกว้างขวางในแบบ Synchronous มีการพัฒนาระบบช่วยการเรียน (CAI และ CBT) มีการนำภาพ ข้อความ เสียงและภาพเคลื่อนไหวมาจัดทำเป็นข้อมูลสำหรับนำเสนอ (Multimedia)
4. ความก้าวหน้าในการใช้ไอทีเป็นกลยุทธ์
หน่วยงานหลายแห่งเริ่มมองเห็นไอทีเป็นกลยุทธ์สำคัญในด้านการแข่งขันคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การให้ข้อมูลข่าวสารแก่พนักงาน การคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการแบบใหม่
วิธีการใช้ไอทีให้ได้ผล
กำหนดวิสันทัศน์และวางแผนการใช้อย่างจริงจังมีการพิจารณาความจำเป็นและความต้องการอย่างรอบคอบ กำหนดงบประมาณ ติดตั้ง พัฒนาระบบตามที่วางแผน รวมทั้งปฏิบัติงานประเมินผลและแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง
แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาไอที
ผู้บริหารสนับสนุนไอทีมากน้อยเพียงใด ภาพรวมของการใช้ไอทีก้าวหน้าดีเพียงใด ใครคือผู้ใช้บ้างและผู้ใช้รู้จักไอทีมากน้องเพียงใด บุคลากรไอทีมีความรู้และประสบการณ์มากน้อยเพียงใด แผ่นแม่บทไอทีมีความสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด
ปัจจัยสำหรับความสำเร็จ
1. มีผู้บริหารที่สนใจและผลักดันด้านไอที
1. มีผู้บริหารที่สนใจและผลักดันด้านไอที
2. ผู้บริหารระดับรองสนใจและลงมือใช้ไอทีเอง
3. มีคณะกรรมการไอทีและที่ปรึกษา
4. พัฒนาบุคลากรด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง
5. ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
6. แก้ไขปรับปรุงระบบอยู่เสมอ
3. มีคณะกรรมการไอทีและที่ปรึกษา
4. พัฒนาบุคลากรด้านไอทีอย่างต่อเนื่อง
5. ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
6. แก้ไขปรับปรุงระบบอยู่เสมอ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
************************************************************************
แนวคิดการศึกษาแผนใหม่เป็นการสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
มีการเรียนรู้ร่วมกัน เนื้อหาการสอนยืดหยุ่นมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ ผู้เรียนเลือกศึกษาเนื้อหาตามความสนใจ (Non-linear) และเริ่มต้นศึกษาสิ่งต่างๆจากปัญหา มีการนำ IT/ICT เข้ามาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น
ซึ่งทำให้เกิดสื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ตามมาCAI (การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน)
ในยุคที่เครื่องคอมพิวเตอร์มีราคาถูกลงและอินเตอร์เน็ตได้แพร่หลายมากขึ้นทำให้มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)ทั้งแบบออนไลน์และบันทึกบน CD-ROM มาใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้นและเมื่อ CAI เป็นที่แพร่หลาย สถาบันต่างๆ เริ่มผลิตโปรแกรมบทเรียนมาใช้สร้างบทเรียนซึ่งพัฒนารูปแบบออกเป็น
1.Adaptive CAI คือ โปรแกรมที่ปรับแนวการสอนตามความสามารถของผู้เรียน
2.Intelligent CAI คือ โปรแกรมที่มีความสามารถเหมือนอาจารย์
3.สื่อบันทึก CAI
ปัญหาของ CAI
1. ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทำเนื้อหาหรือถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียนเป็น CAI
3.สื่อบันทึก CAI
ปัญหาของ CAI
1. ต้องมีผู้เชี่ยวชาญทำเนื้อหาหรือถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียนเป็น CAI
2. CAI ยังไม่สัมพันธ์กับหลักสูตร เนื่องจากแบ่งทำเป็นส่วนๆ ไม่เป็นองค์รวม
3. การทดสอบ CAI
ว่าได้ผลสัมฤทธิ์อย่างไรยังกระทำกันน้อย
4. โปรแกรมบทเรียนที่คุณภาพยังต่ำ
WBT (การสอนโดยใช้เว็บ)
เมื่อระบบอินเตอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บสะดวกมากขึ้น อาจารย์ได้รับการสนับสนุนให้สร้างเว็บไซต์นำเนื้อหาวิชามาบรรยายลงเก็บไว้ทำให้สามารถนำเสนอบทเรียนทางเว็บ CAI จึงพัฒนาไปเป็น WBT ซึ่งหากมีเนื้อหามากพอก็อาจทำให้เป็น Virtual University ในระดับขั้นต้นได้
4. โปรแกรมบทเรียนที่คุณภาพยังต่ำ
WBT (การสอนโดยใช้เว็บ)
เมื่อระบบอินเตอร์เน็ตและเวิลด์ไวด์เว็บสะดวกมากขึ้น อาจารย์ได้รับการสนับสนุนให้สร้างเว็บไซต์นำเนื้อหาวิชามาบรรยายลงเก็บไว้ทำให้สามารถนำเสนอบทเรียนทางเว็บ CAI จึงพัฒนาไปเป็น WBT ซึ่งหากมีเนื้อหามากพอก็อาจทำให้เป็น Virtual University ในระดับขั้นต้นได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
บทความ
ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์
การพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้วยไอที
การเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยี
http://www.drkanchit.com/presentations/education1.pdf
การความก้าวหน้าทางด้านไอที ได้ตอบสนองผู้คนในทุกๆด้านเลย ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ด้านธุรกิจ ด้านการสื่อสาร รวมทั้งด้านการศึกษา ทำให้การศึกษาของผู้เรียนในสมัยนี้ทำได้อย่างรวดเร็ว ผู้เรียนเข้าถึงได้ง่าย ในทุกที่ๆ ทุกเวลา มีประโยชน์อย่างมากๆจริงๆค่ะ
ReplyDeleteความก้าวหน้าของไอทีนั้นมีมากมายและยังสามารถตอบโจทย์และความต้องการของผู็ใช้ได้อีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจอเลย ดังนี้
ReplyDelete1. ไอทีแบบหลายลักษณะ เช่นการกำหนดรูปแบบ ขนาด การส่งเสริมความรู้และศักยภาพ
2. ด้านการกระจาย เช่น การโทรคมนาคม ICT กว้างขวาง มีอุกกรณ์เคลื่อนที่ได้ การติดต่อสื่อสารสะดวก และแลกเปลี่ยนข้อมูล
3. ด้านการเรียน เป็นเครื่องมือ และอุปกรณ์เสริมในการเสริมความรู้ ระบบช่วยเรียน เช่น การนำภาพนิ่ง เคลื่อนไหว รูปภาพ มาจัดทำในรูปแบบกานำเสนอ
4. ด้านการแข่งขัน ยังคงต้องมีความสัมพันธ์มาเกี่ยวเนื่อง รวมทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร
การก้าวล้ำเข้าสู่ระบบไอทีเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม การนำไปประกอบด้านอาชีพตัวเอง การจัดการเรียนรู้นี้มีส่วนสำคัญ การมีสื่อ แหล่งเทคโนโลยีแบบใหม่ๆอยู่เสมอ จะทำให้ผู้เรียนไม่เบื่อ และสนุกกับการเรียนมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาอีเลิร์นนิ่ง จึงมีแนวโน้มว่าจะมีการจัดทำเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่างๆได้ตามความสนใจ
ReplyDelete